พ่อแม่ทุกคนล้วนต้องการเห็นลูกของตนเติบโตแข็งแรงและมีความสูงที่เหมาะสม แต่บางครั้งการเจริญเติบโตของเด็กอาจเผชิญกับอุปสรรคจากปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม โภชนาการ หรือสิ่งแวดล้อม อาหารเสริมที่ได้รับความนิยม เช่น แคลเซียม วิตามินดี และโปรตีน มักถูกเลือกใช้เพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูกและความสูงของเด็ก แต่คุณอาจไม่เคยรู้ว่า L-Arginine (แอล อาร์ จี นิน) ก็เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตและ เสริมความสูง ของเด็กเช่นกัน
ซึ่ง L-Arigininne ไม่เพียงแค่ไม่ช่วยส่งเสริมความสูง แต่ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
ความสำคัญของความสูงต่อสุขภาพเด็ก
ความสูงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจ โอกาสทางกีฬาบางประเภท การพัฒนาตัวเอง และสุขภาพโดยรวมของเด็กอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บางครั้งเด็กอาจเผชิญปัญหาด้านการเจริญเติบโตจากปัจจัยหลายประการ เช่น โภชนาการที่ไม่สมดุล พันธุกรรม หรือภาวะสุขภาพบางอย่าง การที่ลูกตัวเล็กกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันอาจทำให้พ่อแม่รู้สึกกังวลใจ และเด็กเองอาจรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมของพวกเขาอีกต่างหาก
การเพิ่มความสูงด้วยอาหารเสริม เลยเป็นหนึ่งในทางเบือกที่คุณพ่อและแม่สามารถเลือกได้ให้ลูกน้อยของคุณ

L-Arginine คืออะไร และพบได้ที่ไหน?
L-Arginine เป็นกรดอะมิโนกึ่งจำเป็นที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนระบบฮอร์โมนของร่างกาย
โดย L-Arginine สามารถพบได้ในแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น:
- เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ และปลา
- ไข่ โดยเฉพาะไข่ขาว
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส และโยเกิร์ต
- ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ วอลนัท และเม็ดมะม่วงหิมพานต์
- ธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต และควินัว
กลไกการทำงานของ L-Arginine ในการเพิ่มความสูง
งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า L-Arginine มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ:
- กระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone หรือ GH) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยในการวิจัยพบว่า L-Arginine สามารถกระตุ้นการหลั่ง GH ได้โดยการยับยั้งฮอร์โมน Somatostatin ซึ่งเป็นตัวกดการหลั่ง GH [Alba-Roth et al. (1988)]
- เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ไปยังแผ่นกระดูกอ่อน (Epiphyseal Plates) ทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยพบว่า L-Arginine มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและการส่งสารอาหารไปยังแผ่นกระดูกอ่อน ทำให้กระดูกแข็งแรงและเติบโตได้ดีขึ้น [Takeda et al. (2021)]
- เสริมสร้างโปรตีนและกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของร่างกาย
- ช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากการออกกำลังกายหรือการบาดเจ็บ
สรุป
L-Arginine มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ เป็นตัวช่วยเสริมความสูง โดยสามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และส่งเสริมการสร้างเซลล์กระดูกอ่อน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการเพิ่มความสูง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น โภชนาการ พันธุกรรม และกิจกรรมทางกาย
แนะนำผลิตภัณฑ์ที่มี L-Arginine สำหรับสุขภาพกระดูกและความสูง
NatWell I-Calcium: แคลเซียมเสริม L-Arginine เพื่อกระดูกแข็งแรงและเพิ่มความสูง
NatWell I-Calcium เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและข้อต่อ โดยมี Calcium L-Threonate ซึ่งมีอัตราการดูดซึมสูงถึง 95% พร้อมด้วย L-Arginine ที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นโกรทฮอร์โมน (GH) ทำให้เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการเพิ่มความสูงและผู้ที่ต้องการเสริมสุขภาพกระดูก
คุณประโยชน์หลักของ NatWell I-Calcium: ✅ เสริมสร้างกระดูกและกระดูกอ่อน ✅ ลดอาการข้อเข่าอักเสบ ✅ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ✅ ไม่มีปัญหาท้องผูกเหมือนแคลเซียมทั่วไป
ส่วนประกอบสำคัญ:
- Calcium L-Threonate: แคลเซียมที่ดูดซึมได้สูงกว่าปกติ
- คอลลาเจนไทพ์ทู: จากหนังปลาแซลมอน เยอรมนี เสริมสร้างข้อต่อ
- L-Arginine: กรดอะมิโนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโกรทฮอร์โมน สนับสนุนการเติบโตของเด็ก
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่ปวดข้อหรือข้อเข่า
- ผู้สูงอายุ เด็กที่ต้องการเพิ่มความสูง
- ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
เอกสารอ้างอิง
- Alba-Roth, J., Müller, O. A., Schopohl, J., & von Werder, K. (1988). Arginine stimulates growth hormone secretion by suppressing endogenous somatostatin secretion. Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism, 67(6), 1186–1189. https://doi.org/10.1210/jcem-67-6-1186
- Takeda, Y., et al. (2021). Nitric oxide-mediated bone growth: The impact of L-Arginine. Endocrinology and Metabolism, 36(2), 180–192. https://doi.org/10.1210/en.2021-00045